ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้สมาร์ทโฟนในผู้สูงอายุชาติพันธุ์ พื้นที่ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • สายหยุด มูลเพ็ชร์ ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ณัทธร สุขสีทอง ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • วิทญา ตันอารีย์ ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • สามารถ ใจเตี้ย ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ศุภิสรา ดิหน่อโพ หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ธีระพงษ์ จะหละ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านยั้งเมิน
  • ถาวร ล่อกา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน

DOI:

https://doi.org/10.57260/stc.2023.511

คำสำคัญ:

ผู้สูงอายุ, กลุ่มชาติพันธุ์ , สมาร์ทโฟน , ความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัล , การยอมรับเทคโนโลยี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการใช้สมาร์ทโฟน ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้สมาร์ทโฟน และเพื่อเปรียบเทียบความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัลในผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้และไม่ใช้สมาร์ทโฟน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและลีซอ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 174 คนจากจำนวนประชากรทั้งหมด 288 คน ซึ่งคำนวณโดยใช้สูตรของของ Daniel กำหนดระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ 95 % และความคลาดเคลื่อนเท่ากับ 5 % ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามที่ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และนำไปทดสอบความเชื่อมั่นด้านความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัล และด้านการยอมรับเทคโนโลยี ได้ค่าสัมประสิทธิ์ Cronbach's alpha เท่ากับ 0.88 และ 0.70 ตามลำดับ สถิติเชิงอนุมานที่ใช้ในวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ Binary Logistic regression และ Mann-Whitney U test

ผลการศึกษา พบว่า ผู้สูงอายุมีอายุเฉลี่ย 71.20 ปี เป็นเพศหญิง จำนวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 54 ผู้สูงอายุที่ใช้สมาร์ทโฟนคิดจำนวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 35.10 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้สมาร์ทโฟนของผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ เพศชาย (Adjusted odd ratio 2.70, 95% CI: 1.15-6.30)  อายุน้อยกว่า 75 ปี (Adjusted odd ratio 4.35, 95% CI: 1.12-16.85)  มีโรคประจำตัว (Adjusted odd ratio 3.12, 95% CI: 1.12-8.85) ปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีในด้านการรับรู้ประโยชน์ (Adjusted odd ratio 7.22, 95% CI 1.58-32.98) และการรับรู้ความสามารถของตนในการใช้สมาร์ทโฟน (Adjusted odd ratio 13.36, 95% CI 2.47-72.16) ค่ามัธยฐานความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัลในผู้สูงอายุที่ใช้สมาร์ทโฟนสูงกว่าผู้ที่ไม่ใช้สมาร์ทโฟนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01)

การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์มีความการยอมรับเทคโนโลยี ส่งเสริมให้รับรู้ประโยชน์และการรับรู้ความสามารถของตนในการใช้สมาร์ทโฟนจะทำให้ผู้สูงอายุมีความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

References

กันตพล บรรทัดทอง (2557). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และความพึงพอใจของกลุ่มคนผู้สูงอายุ ในเขตกรุงเทพมหานคร. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

เฉลิมพงษ์ ลินลา. (2558). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการวิศวกรรมธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

ชนินทร์ มหัทธนชัย และ บุษราภรณ์ มหัทธนชัย. (2565). ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพในการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 6(2), 63-76. https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/scibru/article/view/247155

ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์, วิมล โรมา และ มุกดา สำนวนกลาง. (2561) แนวคิดหลักการขององค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 1). สำนักงานโครงการขับเคลื่อนกรมอนามัย 4.0 เพื่อความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชน.

ณฐพล ธนสมบูรณ์พันธุ์, รุ่งกานต์ บุญปิยวงศ์, ไชยยงค์ จรเกตุ. (2563). รู้ทันการใช้สมาร์ทโฟนก่อนเกิดปัญหาปวดคอ, วารสารเวชบันทึกศิริราช, 13(2), 113-119. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/simedbull/article/view/170440

เนติยา แจ่มทิม และ สินีพร ยืนยง. (2562). การใช้สื่อออนไลน์ และการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศสุขภาพออนไลน์ของผู้สูงอายุ จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 25(2), 168-180. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Jolbcnm/article/view/233399

วาสนา ศิลางาม. (2561). อันตรายของการเสพติดสมาร์ทโฟน, วารสาร มฉก.วิชาการ, 22(43-44), 193-200. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/159325

วสวัตติ์ สุติญญามณี และ พัชราวลัย วงศ์บุญสิน. (2560) ความเป็นปึกแผ่นระหว่างประชากรต่างรุ่นในครอบครัวชาติพันธุ์ชาวไทยภูเขาในเขตภาคเหนือ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: ม.ป.ท.

สิทธิชัย คูเจริญสิน, ดุสิน ขาวเหลือง และ มานพ แจ่มกระจ่าง (2559). การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมของผู้สูงอายุที่พักอาศัยในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี, วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม, 11(2), 270-281. http://ojslib3.buu.in.th/index.php/social/article/view/4449

สุกัญญา ชนะสงค์. (2563).อิทธิพลด้านการยอมรับเทคโนโลยี ด้านการสนับสนุน เทคโนโลยีและแรงจูงใจในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของผู้สูงอายุในเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร. คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุภาวดี สุวรรณเทน, นิตยา กนบญ, สุวิช ถระโคตร, ชญา หิรัญเจริญเวช, และลฎาภา ศรีพสุดา. (2562). สภาพ ปัญหา การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของผู้สูงอายุ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัด ขอนแกน. วารสารบัณฑิตศึกษา, 16(74), 235-245. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/SNGSJ/article/view/141330

Daniel, W. W., & Cross, C. L. (2013). Biostatistics: a Foundation for Analysis in the Health Sciences. 10th Ed. John Wiley & Sons, Hoboken.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-06-23

How to Cite

มูลเพ็ชร์ ส., สุขสีทอง ณ., ตันอารีย์ ว., ใจเตี้ย ส., ดิหน่อโพ ศ. ., จะหละ ธ. ., & ล่อกา ถ. (2023). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้สมาร์ทโฟนในผู้สูงอายุชาติพันธุ์ พื้นที่ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน, 1(3), 25–38. https://doi.org/10.57260/stc.2023.511