การศึกษาปริมาณโซมาติกเซลล์ในน้ำนมของโคที่รับและไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อการรักษาโรคเต้านมอักเสบ
DOI:
https://doi.org/10.57260/stc.2023.517คำสำคัญ:
โรคเต้านมอักเสบในโคนม , ยาปฏิชีวนะ , ปริมาณโซมาติกเซลล์บทคัดย่อ
โรคเต้านมอักเสบในโคนมทำให้เกิดการสูญเสียรายได้จากผลผลิตที่ลดลง คุณภาพน้ำนมที่ด้อยลง และอาจติดเชื้อเรื้อรังจนต้องคัดทิ้งแม่โคได้ ยาปฏิชีวนะหลายชนิดได้ถูกใช้ในฟาร์มเพื่อการรักษาโรคเต้านมอักเสบโดยเกษตรกรจะไม่นำนมจากโคในระหว่างการรักษาและระยะหยุดยาไปยังศูนย์รวบรวมน้ำนมเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะในน้ำนม พบปัญหาว่าเกษตรกรบางรายอาจใช้ยาปฏิชีวนะไม่ครบตามที่กำหนดในฉลากยาเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งทำให้เกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะในระยะยาว และเกิดโรคเต้านมอักเสบในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง การศึกษานี้จึงได้เปรียบเทียบปริมาณโซมาติกเซลล์ในน้ำนมของโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบที่ใช้และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ โดยกลุ่มตัวอย่างน้ำนมโคทั้งหมด 44 ตัวอย่าง ประกอบด้วย น้ำนมจากโคที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ 24 ตัวอย่าง และน้ำนมจากโคที่ได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อการรักษาโรคเต้านมอักเสบ 20 ตัวอย่าง ผลการศึกษา พบว่าน้ำนมจากโคที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะเป็นน้ำนมที่มีปริมาณโซมาติกเซลล์สูง ค่าเฉลี่ย 2775 ×103 cell/mL ส่วนน้ำนมจากโคที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคเต้านมอักเสบด้วยยาปฏิชีวนะเป็นน้ำนมที่มีปริมาณโซมาติกเซลล์ค่าเฉลี่ย 1856 ×103 cell/mL การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงการใช้ปริมาณโซมาติกเซลล์ เพื่อบ่งชี้ภาวะอักเสบในเต้านม ผลจากการใช้ยาปฏิชีวนะโดยเฉพาะทั้งชนิดสอดเต้านมและชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้ทำให้ภาวะการอักเสบในเต้านมลดลงและปริมาณโซมาติกเซลล์ที่ลดลง การตรวจนับจำนวนโซมาติกเซลล์ในน้ำนมเป็นวิธีการตรวจประเมินสุขภาพเต้านมที่เกษตรกรสามารถทำได้โดยมีค่าใช้จ่ายไม่มาก เกษตรกรสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงจำนวนโซมาติกเซลล์ในน้ำนม เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคเต้านมอักเสบได้
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ