การพัฒนาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์

ผู้แต่ง

  • ภาพวิว ทะบรรหาร วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • กษิดิศ ธรรมวานิช วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • พรพรหม ลิขิตพงศธร วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • ภานุวัฒน์ ครุฑจันทร์ วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • วิศรุต อ้นทอง วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • ชลธิชา เหล็กกล้า วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • ชารินทร์ ลาฤทธิ์ วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
  • นพนิรันดร์ น้ำจันทร์ วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์

DOI:

https://doi.org/10.57260/stc.2023.507

คำสำคัญ:

เครื่องชาร์จ , แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ , หยอดเหรียญ , พลังงานแสงอาทิตย์

บทคัดย่อ

การพัฒนาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ให้บริการพลังงานสำรองสำหรับชาร์จโทรศัพท์ โดยมีเป้าหมายที่จะติดตั้งไว้ตามป้ายรถเมล์ หรือที่สาธารณะ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การออกแบบเชิงวิศวกรรม ผนวกกับคณิตศาสตร์ ใช้วงจร Arduino ซึ่งเป็นบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ในการเขียนโปรแกรม  มีแผงโซลาร์เซลล์เป็นแหล่งพลังงาน มีสวิตช์ที่  1 สำหรับปิด/เปิดเครื่องกรณีใช้ไฟ 220 AC เลี้ยงตัวเครื่อง สวิตช์ที่  2 สำหรับปิด/เปิดไฟจากโซลาร์ชาร์จเจอร์  สวิตช์ที่ 3 สำหรับปิด/เปิดเครื่องโดยใช้ไฟจากโซลาร์ชาร์จเจอร์ มีช่องสำหรับรับเหรียญได้ 4 ชนิด คือ เหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท และ 10 บาท มีจอ LCD แสดงสถานะจำนวนเงินและเวลา ช่องเสียบพอร์ต USB 4 ช่อง โดยนำเครื่องที่สร้างได้ไปทดลองการศึกษาปริมาณพลังงานที่ได้จากการชาร์จด้วยเหรียญที่มีมูลค่าต่างกันในสภาวะปิดเครื่องโทรศัพท์ โดยทดลองใช้กับโทรศัพท์ ยี่ห้อ ซัมซุงรุ่น A5 2016 พบว่า เมื่อหยอดเหรียญ 1 บาท เครื่องจะจ่ายพลังงาน เป็นเวลา 5 นาที ชาร์จได้ 6.33% เมื่อหยอดเหรียญ 2 บาท เครื่องจะจ่ายพลังงาน เป็นเวลา 10 นาที ชาร์จได้ 15.67% เมื่อหยอดเหรียญ 5 บาท เครื่องจะจ่ายพลังงาน เป็นเวลา 25 นาที ชาร์จได้ 35.33% และเมื่อหยอดเหรียญ 10 บาท เครื่องจะจ่ายพลังงาน เป็นเวลา 50 นาที ชาร์จได้ 64.67% และเมื่อนำไปทดลองใช้กับครูและนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์แบบสุ่มจำนวน 20 คน พบว่าระดับความพึงพอใจของครูและนักศึกษามีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.81 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.39 อยู่ในระดับดีมาก

References

ณัฏรี ศรีดารานนท์, โสภา วิศิษฎ์ศักดิ์ และ โจเซฟ เคดารี. (2561). แนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับอาคารในเขตร้อนชื้น. วารสารสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย, 17(2), 11-24. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/arch-kku/article/view/105569

นพพร อำนาจบุดดี, ภัทร เกิดอินทร์, สุระเจตน์ อ่อนฤทธิ์, สนธยา เกาะสมบัติ และ ปิยวิทย์ เอี่ยมพริ้ง. (2550). การพัฒนาเครื่องบริการเติมแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือพลังงานแสงอาทิตย์. อุบลราชานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชานี.

พิณประกาย อบเชย และ เจษฎาพร นุ่มจันทร์. (2561). การออกแบบระบบโซล่าเซลล์ของระบบไฟส่องสว่างบนถนน ทางเท้าแบบเปิด – ปิดตามเวลาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์. กำแพงเพชร: คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาราชภัฏกำแพงเพชร.

พิษณุ สะเตวิน, สิทธิพงษ์ ขุนทองจันทร์ และ ณัฐชัย ทองสุข. (2554). เครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือด้วย พลังงานแสงอาทิตย์. กรุงเทพ: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

ศูนย์สะเต็มศึกษาแห่งชาติ. (2558). คู่มือเครือข่ายสะเต็มศึกษา. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี, กระทรวงศึกษาธิการ.

สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2558). สะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION). วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 17(2), 201-202. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/edujournal_nu/article/view/33370

อติสรณ์ อันสงคราม. (2558). ผลกระทบจากการใช้สื่อโซเซียลมีเดียของคนวัยทำงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. ขอนแก่น: คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีประทุม.

อภิวรรณ ศิรินันทนา. (2561). สมาร์ทโฟนกับสังคมก้มหน้า. วารสารบัณฑิตวิทยาลัยรำไพพรรณี, 1(1), 55-71. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JRBGS/article/view/254609

อัษฏางค์ บุญศรี, นิวดี คลังสีดา, กิตธิชัย ร่มยอถิ่นดง และ ภานุมาศ ช้ำเกตุ. (2562). การออกแบบและสร้างตู้ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่. กำแพงเพชร: คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.

Duffie, J. A., & Beckman, W. A. (1991). Solar Engineering of Thermal Processes. New York: John Wiley & Sons.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-04-10

How to Cite

ทะบรรหาร ภ. ., ธรรมวานิช ก., ลิขิตพงศธร พ., ครุฑจันทร์ ภ., อ้นทอง ว., เหล็กกล้า ช., ลาฤทธิ์ ช., & น้ำจันทร์ น. . . (2023). การพัฒนาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน, 1(1), 35–47. https://doi.org/10.57260/stc.2023.507