ระดับผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่อแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกในอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง
DOI:
https://doi.org/10.55164/jtai.v3i2.1224คำสำคัญ:
ผลกระทบ, ภัยธรรมชาติ, แหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตก, อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบทางชีวกายภาพและจิตวิทยาจากภัยธรรมชาติต่อแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง จังหวัดนครศรีธรรมราช และเสนอแนวทางการจัดการผลกระทบอย่างยั่งยืน การวิจัยอาศัยการประเมินด้วยประสาทสัมผัส (Sensory Evaluation) ร่วมกับการวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา โดยเก็บข้อมูลภาคสนามจากนักท่องเที่ยวจำนวน 400 คน ผ่านวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วน (Proportional Sampling) และการสุ่มตามช่วงเวลา (Time Interval Sampling) ผลการวิจัยพบว่า น้ำตกส่วนใหญ่ (6 จาก 9 แห่ง) ได้รับผลกระทบทางชีวกายภาพในระดับปานกลาง โดยน้ำตกคลองจังมีค่าผลกระทบเฉลี่ยสูงที่สุด (3.18 คะแนน) ขณะที่น้ำตกหนานปลิวมีค่าต่ำที่สุด (1.39 คะแนน) ตัวชี้วัดที่แสดงผลกระทบรุนแรงที่สุด ได้แก่ การล้มของต้นไม้จากพายุฝน (3.52 คะแนน) และการหักล้ม/การตายของต้นไม้ใหญ่ (3.33 คะแนน) สำหรับผลกระทบด้านดินและน้ำ พบการชะล้างหน้าดินและน้ำขุ่นในระดับปานกลาง ส่วนผลกระทบทางจิตวิทยาพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติ (ร้อยละ 68.89) แม้ว่าพื้นที่จะมีร่องรอยความเสียหายปรากฏชัดเจน โดยสรุปการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบนิเวศน้ำตกต่อภัยธรรมชาติ ตลอดจนช่องว่างด้านการรับรู้ของนักท่องเที่ยวนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น การจำกัดการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม การจัดทำสื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการทรัพยากรเชิงนิเวศที่ยั่งยืนในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
กรมอุตุนิยมวิทยา. (2566). สรุปสภาพอากาศประเทศไทย รายปี 2566. กรุงเทพฯ : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2565). รายงานผลกระทบจากภัยธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ ปี 2565. กรุงเทพฯ : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2565). รายงานวิจัยประเมินการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
จุฑามาศ ศิริโชติ. (2564). การเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาในพื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้. สิ่งแวดล้อมและการพัฒนา. 17(2), 45–60.
Ballantyne, R., and Packer, J. (2022). Exploring ecotourism education: The role of environmental interpretation in enhancing visitor experience and conservation awareness. Journal of Sustainable Tourism. 30(4), 512–529.
Chantarasiri, P., and Rattanachot, T. (2021). Natural disaster impacts on eco-tourism resources in southern Thailand. Thai Journal of Environmental Studies. 27(2), 45–62.
Department of National Parks, Wildlife and Plant Conservation (DNP). (2022). Annual report on protected areas and environmental threats. Bangkok : DNP.
Liddle, M. (2020). Recreation ecology: The ecological impact of outdoor recreation and ecotourism. Chapman & Hall.
Phumsathan, T. (2020). Tourism and disaster management in Thailand’s national parks. Journal of Sustainable Tourism and Environment. 15(1), 33–47.
Tan, Y. H., Low, M., and Cheong, D. (2021). Tropical forests and climate-related risks: The role of canopy damage and landslides in ecotourism destinations. Nature Conservation. 45(1), 203–219.
UNEP. (2022). Nature-based solutions for climate, biodiversity and people. Nairobi: United Nations.
Zhang, J., Chen, Y., and Wu, L. (2023). Assessing rainfall-triggered landslides in tropical forest areas: A case from Southeast Asia. Natural Hazards. 117(2), 1125–1144.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยทักษิณ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.