การพัฒนารูปแบบบริการให้ยืมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์จังหวัดลพบุรี
DOI:
https://doi.org/10.57260/stc.2025.1138คำสำคัญ:
พัฒนารูปแบบบริการ, ยืม, กายอุปกรณ์, อุปกรณ์การแพทย์บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ พัฒนารูปแบบ และ ประเมินผลรูปแบบบริการให้ยืมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์จังหวัดลพบุรี โดยใช้เทคนิคกระบวนการวางแผนแบบมีส่วนร่วม เอ ไอ ซี กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลพบุรี และเจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลพบุรี จำนวน 25 คน และผู้รับบริการให้ยืมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ จำนวน 85 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และชุดคำถามปลายเปิดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึงกันยายน 2567 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า 1) ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในพื้นที่จังหวัดลพบุรีไม่สามารถเข้าถึงกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้อย่างครอบคลุม และหน่วยบริการขาดแคลนการอุปกรณ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น 2) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นจากการศึกษา เป็นรูปแบบบริการให้ยืมกายอุปกรณ์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และจัดการข้อมูลด้วยระบบดิจิทัล ให้คำแนะนำวิธีการใช้กายอุปกรณ์และการดูแลรักษา และประสานงานสหวิชาชีพในพื้นที่ในการดูแลต่อเนื่อง ภายใต้ศูนย์ยืมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี 3) นำรูปแบบไปใช้เป็นระยะเวลา 2 เดือน 4) ประเมินผล พบว่า ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในพื้นที่จังหวัดลพบุรีสามารถเข้าถึงกายอุปกรณ์ได้อย่างทั่วถึง รวมถึงสามารถดำเนินชีวิตตามปกติวิถีได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น และระดับความพึงพอใจภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มรายการกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ให้มีความครอบคลุมกับความต้องการของผู้รับบริการ และควรเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ของบริการให้ยืมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2566). ข้อมูลผู้สูงอายุจังหวัดลพบุรี ปี 2566. https://www.dop.go.th/th/know/1
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2566). สถานการณ์ด้านคนพิการ. https://dep.go.th/th/law-academic/knowledge-base/disabled-person-situation
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2567). ข้อมูลผู้สูงอายุ ตามตัวชี้วัดกระทรวงสาธารณสุข (HDC – Dashboard). https://dashboard.anamai.moph.go.th/
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2562). แนวทางการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในระดับพื้นที่ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. เทศบาล)และกระทรวงสาธารณสุข (รพ.สต.). นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสุข.
กองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ. (2564) สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ.2564. https://www.dop.go.th/download/knowledge/th1663828576-1747_0.pdf
ธีรศักดิ์ เลื่อยไธสง. (2549). การบริหารวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลเรื่องที่ 7: การนิเทศการศึกษา (Educational Supervision) สาสน์นิเทศการศึกษา (Educational Supervision Message: ESM). กรุงเทพฯ.
ประชาสรรณ์ แสนภักดี. (2565). เทคนิคกระบวนการวางแผนแบบมีส่วนร่วม : Mind Map® & AIC for Participatory Planning. http://www.prachasan.com/mindmapknowledge/aic.html
ภัทรปภา เชวงทรัพย์, ปฏิมา รุ่งเรือง และ ภูษิตย์ วงษ์เล็ก. (2564). คุณภาพการให้บริการที่สัมพันธ์กับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล. วารสารวิชาการเซาธ์อีสท์บางกอก (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 7(2), 64–81. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/SB_Journal/article/view/249512
ลลิตา หลอดแก้ว และ พัชนา เฮ้งบริบูรณ์พงศ์ใจดี. (2568). ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้รับบริการสุขภาพแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), 40(2), e15574. https://thaidj.org/index.php/pjne/article/view/15574
สินธุ์ สโรบล. (2552). วิธีวิทยาวิจัยเพื่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาชุมชน: บทสังเคราะห์งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นในประเทศไทยและประสบการณ์จากต่างประเทศ. เชียงใหม่: หจก.วนิดาการพิมพ์.
สุริยันต์ ปัญหาราช. (2560). ผลลัพธ์การดําเนินการของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จําเป็นต่อสุขภาพ จังหวัดหนองบัวลําภู. เวชศาสตร์ฟื้นฟูสาร, 27(3), 108-114. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/aseanjrm/article/view/108061
สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2563). คู่มือปฏิบัติงานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ ระดับจังหวัด (ตาม ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่อง หลักเกณฑ์การดําเนินงานและบริหารจัดการ กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด พ.ศ.2562). กรุงเทพฯ: สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา. (2565). อบจ.สงขลาร่วมกับกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ. https://www.ahsouth.com/paper/1149
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี. (2566). ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ปีงบประมาณ 2566. ลพบุรี: สำนักเลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี. (2567). ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในระยะที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในเขตจังหวัดลพบุรี. ลพบุรี: กอง สาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี.
อณัษฐพงษ์ ประถมวงศ์. (2565). การถอดบทเรียนปัจจัยแห่งความสำเร็จของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดตราดที่นำไปสู่การได้รับรางวัลความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับประชาชน ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด. วารสารรัฐศาสตร์รอบรู้และสหวิทยาการ, 5(1), 127-40. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/WPSMS/article/view/254889
อรนภา วีระชุนย์ และ สุชาญวัชร สมสอน. (2566). แนวทางการพัฒนารูปแบบการติดตามผู้ป่วยวัณโรคปอดในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน, 1(1), 19-34. https://li02.tci-thaijo.org/index.php/STC/article/view/509
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ



